ระวัง! 10 ข้อผิดพลาดในการสอบ IELTS ของเด็กนักเรียนไทย
International English Language Testing System
IELTS (International English Language Testing System) การทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก การสอบนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเปิดประตูสู่โอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อ การทำงาน การขอทุน หรือการย้ายถิ่นฐาน
การสอบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทดสอบทักษะทางภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งมีความสำคัญในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ
ข้อสอบ IELTS จะแบ่งการสอบออกเป็น 4 พาร์ท ตามทักษะด้านภาษาที่ต้องการวัด และในแต่ละพาร์ทจะให้คะแนนตั้งแต่ 0 – 9 คะแนน เมื่อรวมคะแนนทั้ง 4 พาร์ทแล้ว จะนำคะแนนรวมที่ได้มาเฉลี่ยเพื่อคำนวณออกมาเป็นคะแนนรวม Overall Band Score ที่มีคะแนนเต็ม 9 คะแนนนั่นเอง
การสอบฟังของ IELTS (30 นาที 40 ข้อ) ประกอบด้วยการฟังบทสนทนาหรือการบรรยายสั้น ๆ จากผู้พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งจะต้องวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ได้ยิน ซึ่งความยากของส่วนนี้ คือ สำเนียงของผู้พูด หากได้ข้อสอบเป็นสำเนียงที่คุ้นชิน ฟังเข้าใจง่าย ก็จะทำให้สามารถฟังเข้าใจได้ง่าย แต่หากว่าไม่คุ้นชินแล้วล่ะก็ อาจทำให้ฟังไม่เข้าใจ ไม่สามารถวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามให้ถูกต้องได้
การสอบพูดของ IELTS (10-13 นาที) ข้อสอบส่วนสุดท้ายของการสอบ IELTS ซึ่งใช้เวลาประมาณ 13 นาที โดยจะเป็นการพูดสื่อสารกับ Examiner ตัวต่อตัว (ประตูด่านสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความกดดัน) ซึ่งจะแบ่ง 3 พาร์ท ได้แก่
พาร์ท 1 : Questions & Answers ใช้เวลา 4-5 นาที
พาร์ท 2 : พูดคุยกับเจ้าของภาษา 1-2 นาที
พาร์ท 3 : Discussion 4-5 นาที
การสอบอ่านของ IELTS (60 นาที 40 ข้อ) จะมีบทความจากหนังสือ วารสาร และหนังสือพิมพ์ คุณจะต้องตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ ซึ่งความยากก็คือการจัดการเวลา (Time management) ในการสอบ แน่นอนว่าข้อสอบไม่ได้ให้คำตอบมาตรงๆ อย่างแน่นอน แต่ต้องใช้ทั้งความเข้าใจจากการอ่าน การวิเคราะห์เนื้อหา เพื่อนำไปสรุปตอบตามประเด็นของคำถาม ซึ่งจะเป็นส่วนที่ผู้สอบมักจะงัดกลยุทธ์ เทคนิค ต่างๆ นำมาใช้ เพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง ทันเวลา
การสอบเขียนของ IELTS (60 นาที) จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ซึ่งจำกัดเวลาในการสอบเพียง 60 นาที
ส่วนที่ 1 คือ การเขียนอธิบาย บรรยาย ข้อมูลเกี่ยวกับกราฟหรือรูปทรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กราฟแท่ง กราฟวงกลม กราฟขึ้น (Upward) กราฟลง (Downward) กราฟที่มีความผันผวน (Volatility) รวมไปจนถึง การเขียนบรรยายตาราง แผนผัง แผนภูมิ และแผนที่ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 คือ การเขียนบรรยายอย่างเป็นทางด้วยการวิเคราะห์โจทย์ในหลากหลายแง่มุม พร้อมกับแสดงจุดยืนของตนเอง โดยโจทย์จะให้วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็น การแก้ปัญหา การเปรียบเทียบ การโต้แย้ง ที่สำคัญผู้สอบจะต้องตอบคำถามของโจทย์ให้ได้
ข้อผิดพลาด |
คำอธิบาย |
Rating (ความถี่) |
คำแนะนำ |
---|---|---|---|
10. การใช้รูปแบบภาษาที่ไม่เป็นทางการ
|
การใช้ภาษาพูดหรือภาษาที่ไม่เป็นทางการในการเขียน
|
★☆☆☆☆
|
ศึกษาโครงสร้างภาษาเขียนที่เป็นทางการ และอ่านตัวอย่างเรียงความ IELTS เพื่อเรียนรู้โทนภาษาที่เหมาะสม
|
9. การใช้คำเชื่อมมากเกินไป
|
ใช้ transition words มากจนประโยคไม่เป็นธรรมชาติ
|
★☆☆☆☆
|
ฝึกเขียนและอ่านบทความตัวอย่างที่มีการใช้คำเชื่อมอย่างเหมาะสม
|
8. การสะกดคำผิด
|
สะกดผิดในพาร์ทการเขียนและการฟัง ทำให้เสียคะแนน
|
★★☆☆☆
|
ฝึกสะกดคำโดยการจดศัพท์ใหม่ๆ และตรวจสอบงานเขียนก่อนส่งเสมอ
|
7. การออกเสียงไม่ชัดเจน
|
ออกเสียงผิด หรือพูดไม่ชัดเจน ทำให้เสียคะแนนในพาร์ท Speaking
|
★★☆☆☆
|
ฝึกออกเสียงจากเจ้าของภาษา และใช้แอปฝึกออกเสียง เช่น iSX only at Westminster
|
6. การตอบคำถามไม่ตรงประเด็น
|
ไม่เข้าใจคำถาม ทำให้ตอบผิดประเด็นใน Writing และ Speaking
|
★★★☆☆
|
อ่านคำถามให้ละเอียดและใช้เวลาเตรียมคำตอบสั้นๆ ก่อนตอบ
|
5. การบริหารเวลาไม่ดี
|
ทำข้อสอบไม่ทัน โดยเฉพาะพาร์ท Reading และ Writing
|
★★★☆☆
|
ฝึกทำข้อสอบจับเวลา เพื่อให้ทำทันในเวลาจริง
|
4. การใช้ไวยากรณ์ผิดพลาด
|
ใช้ tense และโครงสร้างประโยคผิด ส่งผลต่อคะแนน Writing และ Speaking
|
★★★★☆
|
ทบทวนหลักไวยากรณ์ และฝึกแต่งประโยคที่ซับซ้อนขึ้น
|
3. การใช้คำศัพท์จำกัด
|
ใช้คำศัพท์ซ้ำๆ หรือใช้คำที่ไม่ซับซ้อนพอ ทำให้คะแนนต่ำ
|
★★★★☆
|
เพิ่มคลังคำศัพท์โดยการอ่านและจดศัพท์ใหม่ที่ใช้บ่อยใน IELTS
|
2. การเขียนไม่ครบตามจำนวนคำที่กำหนด
|
เขียนไม่ครบ 150 คำ (Task 1) หรือ 250 คำ (Task 2) ทำให้คะแนน Writing ลดลง
|
★★★★★
|
ฝึกเขียนให้ครบจำนวนคำ และใช้เทคนิคเติมรายละเอียดให้งานเขียนยาวขึ้น
|
1. ไม่เข้าใจรูปแบบการสอบ
|
ไม่รู้ว่าต้องเจอคำถามแบบไหน ทำให้สับสนและเสียเวลา
|
★★★★★
|
ควรศึกษารูปแบบข้อสอบให้เข้าใจ และฝึกทำข้อสอบตัวอย่างก่อนสอบจริง
|
หนึ่งในสาเหตุหลักที่เด็กไทยมักได้คะแนน Writing ต่ำคือ การใช้ไวยากรณ์ผิดพลาด โดยเฉพาะเรื่อง Tenses, Subject-Verb Agreement และ Sentence Structure เช่น
❌ He go to school every day. (ผิด) → ✅ He goes to school every day. (ถูก)
อีกปัญหาคือ การใช้คำศัพท์ที่จำกัดและซ้ำซาก ทำให้ข้อความดูไม่น่าสนใจและขาดความซับซ้อน เช่น ใช้คำว่า “good” หรือ “bad” บ่อยเกินไป แทนที่จะใช้ “excellent”, “terrible”, หรือ “remarkable” เพื่อเพิ่มความหลากหลาย
วิธีแก้ไข:
เด็กไทยมักประสบปัญหา พูดติดขัด (Hesitation) หรือ พูดไม่ลื่นไหล (Fluency Issues) เนื่องจากขาดความมั่นใจและกลัวทำผิดไวยากรณ์ ทำให้เกิด Silence Gap ระหว่างการพูด ซึ่งลดคะแนนในพาร์ทนี้
อีกสาเหตุคือ การออกเสียงผิด เพราะบางเสียงไม่มีในภาษาไทย เช่น “th” ใน “three”, “think” หรือ “thank you”, ที่มักออกเสียงเป็น “tree”, “tink”, หรือ “tank you” ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิด
วิธีแก้ไข:
เด็กไทยมักประสบปัญหา พูดติดขัด (Hesitation) หรือ พูดไม่ลื่นไหล (Fluency Issues) เนื่องจากขาดความมั่นใจและกลัวทำผิดไวยากรณ์ ทำให้เกิด Silence Gap ระหว่างการพูด ซึ่งลดคะแนนในพาร์ทนี้
อีกสาเหตุคือ การออกเสียงผิด เพราะบางเสียงไม่มีในภาษาไทย เช่น “th” ใน “three”, “think” หรือ “thank you”, ที่มักออกเสียงเป็น “tree”, “tink”, หรือ “tank you” ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิด
วิธีแก้ไข:
หนึ่งในข้อผิดพลาดหลักคือ การอ่านไม่ละเอียด (Skimming เร็วเกินไป) ทำให้พลาด Keyword สำคัญ และอีกข้อผิดพลาดคือ อ่านทุกคำ (Reading Every Word) ซึ่งเสียเวลามากจนทำข้อสอบไม่ทัน
นอกจากนี้ หลายคนยังติดกับ คำลวง (Distractors) ที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนคำตอบ เช่น
❌ คำถาม: “What is the main reason for deforestation?”
✔️ คำตอบ: “The expansion of agricultural land.”
❌ ตัวลวง: “The use of wood for fuel.” (เป็นผลกระทบ ไม่ใช่เหตุผลหลัก)
วิธีแก้ไข:
คำเชื่อม (Linking Words) เช่น However, Therefore, Moreover, In addition มีบทบาทสำคัญในการทำให้ข้อความลื่นไหลและเป็นทางการ แต่เด็กไทยมักใช้ผิด เช่น
❌ “He likes football. Moreover, he plays it every weekend.” (ผิด)
✔️ “He likes football. In fact, he plays it every weekend.” (ถูก)
❌ “She was tired. Therefore, she didn’t sleep well.” (ผิด)
✔️ “She was tired. However, she didn’t sleep well.” (ถูก)
การใช้คำเชื่อมผิดอาจทำให้เนื้อหาดูไม่เป็นธรรมชาติ และลดคะแนนด้าน Coherence & Cohesion ในพาร์ท Writing และ Speaking
วิธีแก้ไข:
ในการสอบ IELTS เด็กนักเรียนไทยเกิดข้อผิดพลาดที่ทำให้คะแนนลดลง โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ทักษะหลัก ได้แก่ Listening, Reading, Writing และ Speaking ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ การขาดความคุ้นเคยกับโครงสร้างข้อสอบ ทำให้ตอบคำถามผิด หรือเสียเวลาไปกับการทำความเข้าใจและตั้งสติ
พาร์ท Writing เด็กไทยมักใช้ ไวยากรณ์ผิดพลาด (Grammar Mistakes), คำศัพท์จำกัด (Limited Vocabulary) และไม่มีการเชื่อมโยงเนื้อหา (Coherence & Cohesion) ซึ่งส่งผลให้ไม่ได้คะแนนสูงอย่างที่คิด
พาร์ท Speaking มักพูดติดขัด เพราะขาดความมั่นใจและกลัวทำผิด จึงใช้ Pause Fillers มากเกินไป เช่น “Umm…” หรือ “You know…” รวมถึงปัญหาการออกเสียงผิด เช่น “three” ออกเสียงเป็น “tree”, “thank” ออกเสียงเป็น “tank”
พาร์ท Listening นักเรียนมักฟังไม่ทันเพราะพยายามแปลไทยในหัว หรือไม่จับคำสำคัญ (Keywords) ทำให้เสียคะแนนไปฟรีๆ
พาร์ท Reading มีปัญหาทั้ง อ่านทุกคำจนทำไม่ทัน และ อ่านเร็วเกินไปจนพลาดประเด็น รวมถึงตกหลุมพรางของคำลวง (Distractors) สิ่งเหล่านี้เกิดจากการเตรียมตัวที่ไม่ดีพอ ทำให้คะแนนสอบออกมาต่ำกว่าที่หวังเอาไว้นั่นเอง
พัฒนามาเพื่อให้นักเรียนของเราสอบได้คะแนนตามที่คาดหวัง และได้ผลลัพธ์จริง
จากหลักสูตรที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาบุคลากรผู้สอน พร้อมการเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ของสถาบันเวสท์มินส์เตอร์ จึงทำให้
“หลักสูตรของเราประสบความสำเร็จ”
พิสูจน์ด้วยผลลัพธ์ของนักเรียนเรา สอบได้ IELTS 7.0-9.0
ประธานหลักสูตร
อาจารย์ Richard Hallows
ผู้เชี่ยวชาญด้าน IELTS ระดับโลกที่สร้างหลักสูตร IELTS ให้กับนักเรียนไทย
การันตีคุณภาพด้วยรางวัล British Council IELTS Partner of the Year ถึง 4 ปีซ้อน
รางวัล British Council IELTS Partner of the Year เป็นสิ่งที่รับประกันได้ว่าสถาบันฯของเราเป็นผู้นำในด้าน IELTS อย่างแท้จริง และมีความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดหลักสูตรเตรียมสอบ IELTS และการจัดสอบที่มีคุณภาพตามมารฐานของ British Council ที่เป็นเจ้าของข้อสอบ IELTS ทั่วโลก
Westminster หวังว่าบทความนี้จะคอยเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังพยายามตามล่าความฝันอยู่ ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ
หลักสูตร IELTS ติวเข้มที่พิสูจน์แล้วด้วยผลสอบ IELTS 6.5-7.5 ยกชั้น ในคอร์ส Advanced IELTS
บริการให้คำแนะนำในการศึกษาต่อต่างประเทศโดยผู้เชี่ยวชาญผู้มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ปรึกษาฟรีทุกขั้นตอน
Copyright © 2024 Westminster International Co., Ltd All Rights Reserved.