IELTS

IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?

International English Language Testing System การสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?

การวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ที่ไม่ได้สอบเอาไว้เฉยๆ แต่ใช้ทำอะไรได้บ้าง? มาดูกัน

 

IELTS (International English Language Testing System) การสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ IELTS Academic และ IELTS General Training เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของผู้สอบแต่ละคน การสอบนี้เริ่มต้นในปี 1989 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่ยอมรับในระดับสากลจนถึงปัจจุบัน

 

โครงสร้างของข้อสอบ IELTS

ข้อสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 พาร์ท คือ การฟัง (Listening), การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing), และการพูด (Speaking) โดยในแต่ละพาร์ท ก็จะมีพาร์ทย่อยแยกไปเพื่อให้สามารถวัดทักษะภาษาได้อย่างครบถ้วน ซึ่งมีคะแนนเต็ม 9 คะแนน และผลสอบจะรวมค่าเฉลี่ยของทั้ง 4 ส่วนออกมาเป็นคะแนนรวมนั่นเอง IELTS 9.0 ที่ทุกคนมุ่งหวัง

 

การสอบฟัง (Listening) ของ IELTS

การสอบฟังของ IELTS  (30 นาที 40 ข้อ)
ประกอบด้วยการฟังบทสนทนาหรือการบรรยายสั้น ๆ จากผู้พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งจะต้องวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ได้ยิน ซึ่งความยากของส่วนนี้ คือ สำเนียงของผู้พูด หากได้ข้อสอบเป็นสำเนียงที่คุ้นชิน ฟังเข้าใจง่าย ก็จะทำให้สามารถฟังเข้าใจได้ง่าย แต่หากว่าไม่คุ้นชินแล้วล่ะก็ อาจทำให้ฟังไม่เข้าใจ ไม่สามารถวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามให้ถูกต้องได้

 

 

 

การสอบอ่าน (Reading) ของ IELTS

การสอบอ่านของ IELTS (60 นาที 40 ข้อ)
จะมีบทความจากหนังสือ วารสาร และหนังสือพิมพ์ คุณจะต้องตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ ซึ่งความยากก็คือการจัดการเวลา (Time management) ในการสอบ แน่นอนว่าข้อสอบไม่ได้ให้คำตอบมาตรงๆ อย่างแน่นอน แต่ต้องใช้ทั้งความเข้าใจจากการอ่าน การวิเคราะห์เนื้อหา เพื่อนำไปสรุปตอบตามประเด็นของคำถาม ซึ่งจะเป็นส่วนที่ผู้สอบมักจะงัดกลยุทธ์ เทคนิค ต่างๆ นำมาใช้ เพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง ทันเวลา

 

การสอบเขียน (Writing) ของ IELTS

การสอบเขียนของ IELTS (60 นาที)
จะแบ่งเป็น 2 พาร์ท ซึ่งจำกัดเวลาในการสอบเพียง 60 นาที

พาร์ท 1: การเขียนอธิบาย บรรยาย ข้อมูลเกี่ยวกับกราฟหรือรูปทรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กราฟแท่ง กราฟวงกลม กราฟขึ้น (Upward) กราฟลง (Downward) กราฟที่มีความผันผวน (Volatility) รวมไปจนถึง การเขียนบรรยายตาราง แผนผัง แผนภูมิ และแผนที่ เป็นต้น

พาร์ท 2: การเขียนบรรยายอย่างเป็นทางด้วยการวิเคราะห์โจทย์ในหลากหลายแง่มุม พร้อมกับแสดงจุดยืนของตนเอง โดยโจทย์จะให้วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็น การแก้ปัญหา การเปรียบเทียบ การโต้แย้ง ที่สำคัญผู้สอบจะต้องตอบคำถามของโจทย์ให้ได้

 

การสอบพูด (Speaking) ของ IELTS

การสอบพูดของ IELTS (10-13 นาที)
ข้อสอบส่วนสุดท้ายของการสอบ IELTS ซึ่งใช้เวลาประมาณ 13 นาที โดยจะเป็นการพูดสื่อสารกับ Examiner ตัวต่อตัว (ประตูด่านสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความกดดัน) ซึ่งจะแบ่ง 3 พาร์ท ได้แก่
พาร์ท 1 : Questions & Answers ใช้เวลา 4-5 นาที
พาร์ท 2 : พูดคุยกับเจ้าของภาษา 1-2 นาที
พาร์ท 3 : Discussion 4-5 นาที

 

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ IELTS คือ อะไร? ทำไมต้องสอบ IELTS

 

การใช้ผลสอบ IELTS เพื่อการศึกษาต่อ

การรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จำเป็นต้องใช้ผลสอบ IELTS เป็นหนึ่งในเกณฑ์การพิจารณารับเข้าศึกษา การมีผลสอบ IELTS ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นนำ ซึ่งขั้นต่ำที่ใช้เป็นเกณฑ์ คือ IELTS 6.0 แต่กว่า 90% ของมหาวิทลัยชั้นนำมีเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่ที่ IELTS 6.5 มากไปกว่านั้น ยังมีขั้นต่ำ IELTS 7.0 อีกด้วย หากต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำแล้วล่ะก็ต้องเช็คหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาสนะ

 

 

โอกาสในการรับทุนการศึกษา

การมีคะแนน IELTS ที่สูงยังเป็นประโยชน์ในการสมัครขอทุนการศึกษาต่างๆ ในหลายองค์กรและมหาวิทยาลัยที่มักมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษดีเยี่ยม ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินและเพิ่มโอกาสในการเรียนต่อในต่างประเทศ มากไปกว่านั้นการเห็นผลของความพยายามที่เราเตรียมตัวมานั้นมันออกดอกออกผลด้วยแล้วล่ะก็ บอกเลยว่า ใจฟูสุดๆ

 

การใช้ผลสอบ IELTS เพื่อการทำงาน

องค์กรในระดับสากล

องค์กรหลายแห่งทั่วโลกนิยมใช้ผลสอบ IELTS เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน โดยเฉพาะในองค์กรระหว่างประเทศ หรือองค์กรต่างประเทศ ดังนั้นการมีคะแนน IELTS ที่ดีสามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานในต่างประเทศหรือในองค์กรที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างประสบการณ์ เปิดโอกาสใหม่ๆในชีวิตแล้ว ยังส่งผลถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย

 

โอกาสในการทำงานในต่างประเทศ

การมีผลสอบ IELTS จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสในการทำงานในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในสหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย หรือประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก องค์กรต่างๆในประเทศเหล่านี้ มักจะมองหาพนักงานที่มีทักษะภาษาอังกฤษดีเยี่ยม เนื่องจากเล็งเห็นถึงการสื่อสารและการพัฒนาภาพลักษณ์องค์กรเป็นสำคัญ

 

การใช้ผลสอบ IELTS เพื่อการย้ายถิ่นฐาน

การขอวีซ่าถาวรในประเทศต่าง ๆ

แน่นอนว่าในการที่แต่ละประเทศปลายทางจะรับใครเข้าสู่ประเทศ มักจะเล็งเห็นถึงการมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศจากบุคคลนั้นๆ ซึ่งผลสอบ IELTS เป็นหนึ่งในเอกสารที่ใช้ประกอบการขอวีซ่าถาวรในหลายประเทศเนื่องด้วยแสดงให้เห็นถึงความพยายาม วินับในการเตรียมตัว และยังสื่อถึงคุณภาพของบุคคลนั้นๆได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นประเทศ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ การมีคะแนน IELTS ที่ดียังช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับวีซ่าถาวรและการตั้งถิ่นฐานในประเทศเหล่านี้อีกด้วย

 

การย้ายถิ่นฐานและการตั้งถิ่นฐานใหม่

การย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก มีความต้องการใช้ทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการสอบ IELTS จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ดีช่วยให้สามารถปรับตัวเข้ากับสังคม สามารถสื่อสารได้อย่างเข้าใจ และนอกจากนั้นคะแนน IELTS เองก็เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การพิจารณาของตั้งถิ่นฐาน ซึ่งนอกจากจะได้รับ Visa แล้ว ยังช่วยให้การย้ายใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นอีกด้วย

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง

1) IELTS คืออะไรและทำไมถึงสำคัญ?
IELTS (International English Language Testing System) เป็นการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีความสำคัญในการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับการศึกษาต่อและการทำงาน

2) การสอบ IELTS ยากไหม?
การสอบ IELTS มีความยากปานกลาง ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวและความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้สอบ ควรฝึกฝนและเตรียมตัวอย่างดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการสอบผ่าน

3) ควรเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างไร?
การเตรียมตัวสอบ IELTS ควรฝึกฝนทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนอย่างต่อเนื่อง ใช้หนังสือเรียนและแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อถือได้ และทำข้อสอบจำลองเพื่อคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบ

4) คะแนน IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
คะแนน IELTS สามารถใช้เป็นหลักฐานในการสมัครศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยชั้นนำ และยังเป็นประโยชน์ในการสมัครงานในองค์กรระหว่างประเทศที่ต้องการทักษะภาษาอังกฤษ

5) การสมัครสอบ IELTS ต้องทำอย่างไร?
การสมัครสอบ IELTS สามารถทำได้ผ่านศูนย์สอบ IELTS ที่มีอยู่ทั่วโลก ควรตรวจสอบวันและเวลาสอบ รวมถึงเตรียมเอกสารและค่าธรรมเนียมในการสมัครให้ครบถ้วน

สรุป IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?

คะแนน IELTS นิยมถูกใช้ในการตั้งเงื่อนไขและเกณฑ์ต่างๆ ในการคัดเลือก ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ วินัย และความสามารถในการพัฒนาต่อยอดในเรื่องอื่นๆในต่างแดน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นเงื่อนไขในเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ได้แก่

  1.  การใช้ผลสอบ IELTS เพื่อการศึกษาต่อ
  2. การใช้ผลสอบ IELTS เพื่อการทำงาน
  3. การใช้ผลสอบ IELTS เพื่อการย้ายถิ่นฐาน

 

Westminster หวังว่าบทความนี้จะคอยเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังพยายามตามล่าความฝันอยู่ ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ